วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

หนังตะลุง


 

 หนังตะลุง

     
 ประเทศไทย  ประกอบด้วยคนในชาติที่มีความหลากหลายแตกต่างกันไป  ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นมีศิลปะประเพณีที่แตกำต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น  ไม่ว่าจะเป็นการฟ้อนการ่ายรำอันสวยงามของชาวภาคเหนือ  การเซิ้งหรือแสดงหมอลำของชาวภาคอีสาน  การร้องเล่นลำตัดของชาวภาคกลาง หรือหนังตะลุงที่จะนำมาเสนอเป็นบทความนี้ก็เป็นศิลปะประจำถิ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นตัวบ่งบอกความมีอารยะธรรมและประเพณี  ความมีคุณค่า  บ่งบอกวิถีชีวิตความเป็นอยู่  ความเชื่อต่างๆ  และรากเหง้าของคนในสังคมหรือชุมชนที่อาศัยอยู่แต่ละพื้นที่
                                

             หนังตะลุง  ศิลปะการแสดงประจำท้องถิ่นอย่างหนึ่งของภาคใต้  เชื่อกันว่ากำเนิดมาจากจังหวัดพัทลุง  ปัจจุบันสิ่งที่บ่งบอกว่าจังหวัดพัทลุงเป็นต้นกำเนิดการแสดงหนังตะลุงนั้น  เราจะเห็นได้จากคำขวัญประจำจังหวัดพัทลุงที่ว่า  เมืองหนังโนราห์  อยู่นาข้าว  พรราวน้ำตก  แหล่งนกน้ำ  ทะเลสาปงาม  เขาอกทะลุ  น้ำพุร้อน  คำว่าเมืองหนัง  ก็คือพัทลุงเป็นดินแดนที่ให้กำเนิดหนังตะลุง  และการแสดงพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่งคือ  มโนราห์  การแสดงหนังตะลุงนั้นในระยะต่อมามีการขยายการแสดงออกไปยังจังหวัดใกล้เคียงทั่วภาคใต้ หนังตะลุงนั้นเป็นการเล่าเรื่องราวนิยายแบบการร้องกลอนสด  หรือเราเรียกกันว่า  การว่าบท  เป็นลัการะของกลอนแปด  เนื้อหาของเรื่องที่นำมาแสดงหนังตะลุงนั้นเปรียบให้เห็นง่ายๆเลยก็คือ  เหมือนละครแนวจักรๆวงศ์ๆ  ตามที่เราๆท่านๆได้ดูในตอนเช้าของวันเสาร์  อาทิตย์  หากแต่แตกต่างตรงที่ว่าการแสดงหนังตะลุงนั้นเป็นการแสดงเรื่องราวผ่านจอหนังซึ่งเป็นจอผ้าใบ  เป็นการร้องกลอนสดของศิลปินหนังตะลุง  ซึ่งเราชาวปักษ์ใต้นั้นเรียกศิลปินหนังตะลุงว่า  นายหนัง 
                                         
           
 
 
 ข้าพเจ้าจำได้ว่าบิดาของข้าพเจ้าได้หอบหิ้วเอาข้าพเจ้าไปด้วยเกือบทุกครั้งเมื่อท่านรับงานแสดงหนังตะลุง ข้าพเจ้าได้จดจำทั้งทำนองท่วงท่าและรูปตัวหนังตะลุงที่ใช้ในการแสดงหนังตะลุงไว้อย่างแม่นยำ ซึ่งตัวรูปหนังตะลุงนั้นเหมือนกับละครจักรๆวงค์ๆทั่วไปที่เราดูกันคือมีรูปตัวพระตัวนาง รูปกษัตริย์ รูปมเหสี รูปตัวตลก ซึ่งตัวตลกบางตัวสันนิฐานว่าเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยุ่จริงในอดีต เช่น
 
            

นายเท่ง
 เป็นชาวอำเภอสะทิงพระ จังหวัดสงขลา เป็นคนผอมบางตัวดำคล้ำตามรูปแบบชาวปักษ์ใต้ มีลักษณะพิเศษคือนิ้วมือขวาโตคล้ายอวัยวะเพศชาย ชอบพุดจามีหลักการ ส่วนใหญ่เท่าที่พบเห็นนายหนังมักจะสอดแทรกความรู้ด้านข่าวสารบ้านเมืองเมื่อออกรูปนายเท่ง
 
 นายหนูนุ้ย  เป็นคนสติไม่สมประกอบ ผิวดำและเตี้ย ปากยื่นออกมาเหมือนปากวัว มักจะโดนล้อประจำว่าเป็นลูกของวัว  ถือกรรไกรหนีบหมากเป็นอาวุธ  เป็นตัวตลกที่เคียงคู่กับนายเท่ง
 
  นายยอดทอง  เป็นชาวจังหวัดพัทลุง  ลักษณะผมหยิกเป็นลอน  จมูกยื่น  ปากบุ๋ม หน้าเหมือนจระเข้  ชอบพูดจาโอ้อวดเกินจริง  ขี้ขลาด เอางานเอาการไม่ได้  มักได้รับบทให้เป็นเพื่อนของนางเอกของเรื่องเสมอจนมีนิสัยบ้านายผู้หญิง  ปักษ์ใต้เราเรียกว่า ยอดทองบ้านาย
 
 
นี่คือตัวละครที่เป็นตัวตลกบางส่วนที่กล่าวได้ว่าทุกโรงทุกคณะต้องมีเหมือนกัน  ตัวละครเหล่านี้คือสีสันในการแสดงหนังตะลุงของภาคใต้เรา  อาจะกล่าวได้ว่าตัวละครเหล่านี้เด่นกว่าตัวละครตัวพระและตัวนางเสียอีก  ส่วนในการให้เสียงนั้นตัวละครทุกตัวจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปเช่น  นายเท่งนายหนังจะต้องให้เสียงทุ้มๆน่าเชื่อถือ  ส่วนเสียงนายหนูนุ้ยจะเสียงแหลมเล็ก ออกไปทางซื่อๆเป็นต้น  
 
ส่วนขั้นตอนในการแสดงหนังตะลุงนั้นเริ่มจากการตั้งโรงหนัง โดยสมัยก่อนเจ้าภาพที่รับหนังตะลุงไปแสดงจะมีการปลุกเรือนหรือปลูกโรงหนังตะลุงไว้ให้พร้อมเพื่อรอให้นายหนังได้เริ่มแสดงได้เลย แต่ปัจจุบันนายหนังได้มีโรงหนังส่วนตัวซึ่งคณะของบิดากระผมก็เป็นเช่นนี้ด้วย  คือการใช้โรงหนังเหล็กสำเร็จรูปเมื่อจะทำการแสดงก็ประกอบกันตรงนั้นได้เลย
 
 
       

     ขั้นตอนต่อมานายหนังจะทำพิธีทางไสยศาสตร์โดยการ ออกรูปพระฤาษีเพื่อบูชาครูบาอาจารย์ เพราะนายหนังทุกคนจะมีครูบาอาจารย์ที่ตัวเองนับถือหรือได้ร่ำเรียนวิชามา
    ลำดับต่อมาเป็นการ ออกรูปพระอิศวรทรงโคหางขาวเป็นการ บูชาเทพเจ้าแห่งความบันเทิง ตามคติของชาวปักษ์ใต้เราโดยจุดสำคัญในการออกรูปนี้ เพลงบรรเลงจะคึกคักดุดัน เร้าใจ 
  ขั้นตอนถัดไปคือการออกปรายหน้าบท ความหมายของปรายหน้าบทคือการอภิปรายบอกกล่าวท่านผู้ชมก่อนการแสดง ด้วยนิสัยและวัฒนธรรมทางภาษาของคนใต้ที่ชอบพูดสั้นคำว่าอภิปรายเลยเหลือแค่คำว่าปรายนั่นเอง อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการแนะนำตัวนายหนังให้ผู้ชมรับทราบ กราบขอบพระคุณผู้ที่เข้ามาชม กล่าวขอขมาเมื่อมีการแสดงที่ผิดพลาดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
  
ลำดับถัดมาจะเป็นการ ออกรูปบอกเรื่อง ว่าทางคณะจะเล่นเรื่องอะไร  เล่าเรื่องย่อๆของเรื่องที่จะแสดง  ขั้นตอนนี้นายหนังจะออกรูปโดยใช้รูปตัวตลกในการบอกเรื่อง  ในการเริ่มต้นแสดงหนังตะลุงนั้นฉากแรกที่นายหนังจะปักรูปลงดำเนินเรื่องราวนายหนังจะปักรูปตั้งเมือง  คือการออกรูปกษัตริย์หรือพระราชา กับมเหสี  ถ้านึกภาพไม่ออกท่านผู้อ่านลองจำลองภาพกษัตริย์ออกท้องพระโรงว่าราชการ  ในภาพยนตร์หรือ ละครจักรๆวงค์ๆจะมีลักษณะเดียวกันจากนั้นก็เริ่มแสดงดำเนินเรื่องราวไปเรื่อยๆจนจบการแสดง หรือ ถึงเวลาอันสมควร

          ศิลปะการแสดงหนังตะลุงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวปักษ์ใต้  เป็นวัฒนธรรมทางการแสดงและภาษา  นับวันได้เลือนหายออกไปจากสังคมไทย หรือแม้แต่สังคมชาวปักษ์ใต้  มีผู้ที่สานต่อลมหายใจทางศิลปะแขนงนี้เพียงไม่กี่ท่านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสทั้งนั้น  เพราะการเข้ามาแทนที่ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ค่านิยมใหม่ๆรวมไปถึงการคลั่งไคล้ในวัฒนธรรมต่างชาติของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่  ซึ่งในทางกลับกันคนรุ่นใหม่ควรที่จะ ต้องอนุรักษ์  รักษา  ความเป็นท้องถิ่นของเรา  การคลั่งไคล้วัฒนธรรมต่างชาติที่เกินขอบเขตไป และไม่เหลียวหลังกลับมามองสิ่งที่เป็นความดีงามของท้องถิ่นของเราประเทศของเรา  สิ่งเหล่านี้จะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติของเราอย่างยิ่ง  เราอาจจะต้องกลายเป็นชนชาติที่เป็นทาสทางวัฒนธรรมของชนชาติอื่น
 
       ข้าพเจ้าเป็นลูกหลานชาวปักษ์ใต้แท้ๆ และยังเป็นลูกนายหนังย่อมมีส่วนที่จะต้องช่วยกันต่อลมหายใจให้กับศิลปะการแสดงหนังตะลุง  ข้าพเจ้าตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อให้งานชิ้นนี้ ออกมาอย่างดีที่สุดพยายามให้เข้าใจง่าย หรือ ไม่สับสนจนเกินไป  เพื่อให้เป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะชนโดยผ่านจากการถ่ายทอดประสบการณ์ของข้าพเจ้า  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น